กล่องกระดาษแข็ง (จั่วปัง) / Cardboard

(การอธิบายและการเชื่อมโยงข้อมูลของแมททีเรียลและโปรดักส์ บริษัทฯขอสงวนสิทธิ์ในการมุ่งเน้นการนำเสนอรายละเอียดของข้อมูลเฉพาะส่วนที่ให้ผู้ใช้งานเข้าถึงข้อมูล และเข้าใจง่ายเป็นหลัก จะไม่มุ้งเน้นการนำเสนอข้อมูลเชิงวิชาการและทฤษฎีมาประกอบมากนัก)

วัสดุ

- กระดาษแข็ง หรือ กระดาษจั่วปัง

สีวัสดุ

- ผิวและเนื้อของกระดาษจะเป็นโทนสีเทา แต่ละโรงงานจะมีสีอ่อน เข็มต่างกัน

(สีผิวและเนื้อกระดาษจั่วปัง ไม่มีผลกับการทำกล่องหรือชิ้นงาน เพราะส่วนใหญ่จะใช้กระดาษที่มีงานพิมพ์หรือกระดาษแฟนซี มาห่อหุ้มอีกชั้นหนึ่งตอนแปรรูป เป็นกล่องหรือชิ้นงาน)

ลักษณะของงาน

- ใช้บล็อคมีดหรือเครื่องตัด ไดคัทหรือตัดกระดาษ เป็นรูปชิ้นงานตามต้องการ ส่วนมากจะห่อหรือปิดทับด้วยงานพิมพ์ และประกอบเป็นทรงกล่องที่ต้องการ (งานกล่องประเภทนี้ส่วนมากจะทำเป็นรูปทรงสี่เหลี่ยม)

ข้อดีของกล่อง

- กล่องประเภทนี้ส่วนใหญ่ออกแบบมาให้สามารถ เปิดใส่สินค้าได้เลย จึงง่ายต่อการแพคกิ้งงาน

 (แต่สินค้าบางประเภท อาจต้องดีไซน์แบบกล่องให้มี ฐานแยก ,ฝาแยก ,มีตัวล็อค ,มีตัวคั้น ฯลฯ จึงอาจจะส่งผลให้การแพคกิ้งสินค้าได้ช้าลง)

- กล่องแพคเกจจิ้งประเภทนี้มีความแข็งแรงและรับน้ำหนักได้มาก กว่ากล่องประเภทอื่น

 (ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ความหนาของกระดาษ และการออกแบบของตัวกล่อง ให้ตรงกับการใช้งานเป็นสำคัญ)

- กล่องประเภทนี้บ่งบอกถึงความมีราคาและมีคุณค่า ของสินค้าได้สูง

 (ขึ้นอยู่กับการเลือกใช้ความหนาของกระดาษ การออกแบบงานพิมพ์ การเพิ่มออฟชั่นหลังงานพิมพ์ เป็นสำคัญ)

ข้อเสียของกล่อง

- ใช้พื้นที่จัดเก็บสต็อคกล่องเยอะ เพราะกล่องกระดาษแข็ง(จั่วปัง) ส่วนใหญ่ออกแบบมาให้ใช้งานได้โดยไม่ต้องขึ้นรูป

- มีน้ำหนักของกล่องเยอะกว่ากล่องแพคเกจจิ้งประเภทอื่น

วิธีใช้งาน

- ส่วนใหญ่จะสามารถเปิดแล้วบรรจุสินค้าได้เลย อาจจะดีไซน์ให้มีแถบแม่เหล็ก ,ผูกริ้บบิ้น ,หรือมีเชือกผูก)

ประเภทสินค้าที่ใช้งาน

- อาทิเช่น กล่องคุกกี้ ,กล่องกิ๊ฟเซต เป็นต้น

งานพิมพ์

1.สกรีน

- กล่องกระดาษแข็ง สามารถห่อหุ้มงานสกรีน โลโก้ ลวดลาย เพื่อเพิ่มความสวยงามของสินค้า

ข้อดีของงานสกรีน

- สีสกรีน สวย สด มีมิติ และอยู่คงทน กว่างานพิมพ์ชนิดอื่นๆ

- สามารถผลิตงานได้ทั้งแบบน้อยชิ้น จนถึงงานที่มีจำนวนมาก 

ข้อเสียของงานสกรีน

- ต้องใช้ฟีล์มในการทำบล็อคสกรีน

- หากต้องการแก้ไขแบบ หรือข้อความ จากงานสกรีนเดิม ต้องทำฟีล์มและบล็อคสกรีนใหม่

 (สามารถแก้ไขฟีล์มหรือบล็อค โดยไม่ต้องทำใหม่ ได้ในบางกรณี)

 2.พิมพ์ออฟเซต(CMYK) และสีพิเศษ(Pantone)

- กล่องกระดาษแข็ง สามารถห่อหุ้มด้วยงานพิมพ์ออฟเซต 4สี และสีพิเศษ(pantone) ตามรูปแบบที่ผู้ใช้งานกำหนด ได้หลากหลาย เช่นรูปหน้าคน ภาพเสมือนจริง และอื่นๆอีกมากมาย เพื่อเพิ่มความสวยงาน โดดเด่นของสินค้า

- เหมาะสำหรับงานพิมพ์ที่จำนวนการใช้เยอะ

ข้อเสียของงานพิมพ์ออฟเซต

- พิมพ์งานจำนวนเยอะถึงจะได้ราคาที่เหมาะสม

- หากมีการแก้ไขแบบ หรือข้อความ จากงานพิมพ์เดิม ต้องทำเพลทใหม่

 (แต่ปัจจุบัน การทำเพลท สะดวก รวดเร็วขึ้นมาก สามารถแก้ไขไฟล์งานแล้วทำเพลทได้เลย โดยไม่ต้องใช้ฟีล์ม)

3.ดิจิตอลออฟเซต(Digital Offset)

- กล่องกระดาษแข็ง สามารถห่อด้วยงานพิมพ์ดิจิตอลออฟเซต

(เหมาะสำหรับงานกล่องที่ใช้จำนวนน้อย อาทิเช่นกล่องเซตของฟรีเมี่ยมเฉพาะงาน ฯลฯ)

- การพิมพ์แบบนี้ สามารถใช้ไฟล์งานสั่งพิมพ์ได้เลย โดยไม่ต้องใช้เพลทเหมือนการพิมพ์ออฟเซต ปัจจุบัน สินค้าที่ขายจำนวนน้อย นิยมใช้งานมาก 

ข้อดีของงานพิมพ์ดิจิตอลออฟเซต

- พิมพ์ได้น้อยชิ้น

- สะดวก รวดเร็ว ในการพิมพ์

- สะดวก รวดเร็ว ในการแก้ไขแบบ และข้อความ

หลังงานพิมพ์ (ออฟชั่นพิเศษ)

- กล่องกระดาษแข็งสามารถเพิ่มความงาม ความหรูหรา และจุดสนใจต่อผู้พบเห็น ได้มากกว่าการพิมพ์ให้มีลวดลายสวยงาม สีสันสดใส โดยการเพิ่มออฟชั่นหลังงานพิมพ์ ในส่วนของกระดาษห่อกล่อง

 อาทิเช่น การ Hot stamp หรือเคเงิน-เคทอง และสีต่างๆ ,Spot UV ,Water Based ,ปั้มนูน ,เคลือบฟีล์มเงา-ด้าน ฯลฯ

ประโยชน์ของการใช้

- เพิ่มมูลค่าของสินค้า

- เพิ่มความสวยงาม โดดเด่น ดึงดูดสายตาผู้ใช้งาน

 (สามารถดีไซน์ให้มองเห็นสินค้าภายในกล่อง หรือให้มีรูปทรงกระชับกับสินค้าได้อย่างสวยงาม)

- ใช้จัดเซตสินค้าปลีกย่อย ให้เป็นชุดเซตที่น่าสนใจในการเลือกซื้อ

- ปกป้องสินค้าจากการขนย้าย และวางจำหน่าย ให้ถึงมือผู้บริโภคอย่างสมบูรณ์แบบ

 (การปกป้องสินค้า ขึ้นอยู่กับการดีไซน์ สเปคความหนา และคุณภาพ ของกระดาษที่ผู้ใช้งานเลือก)

การใช้งานด้านอื่นๆ

- นอกจากกระดาษที่นำมาแปรรูปเป็นงานกล่องแล้ว ยังสามารถแปรรูปเป็นโปรดักส์ใช้งานควบคู่กับงานกล่องได้

 อาทิเช่น ชั้นวางของ ,แฟ้มงาน ,เมนูอาหาร ฯลฯ

ด้านสิ่งแวดล้อม

- กล่องเมื่อถูกใช้งานถึงปลายทางแล้ว กล่องบางประเภท ผู้บริโภคสามารถนำตัวกล่องไปใช้ประโยชน์ต่อได้ อาทิเช่น กล่องห่อของขวัญ ,เอาไว้เก็บรักษาของใช้ที่มีราคาได้ เพราะมีความแข็งแรงมาก และสวยงาม (ต้องดูขนาดและสภาพการใช้งานให้เหมาะสม) ฯลฯ

- กล่องกระดาษเมื่อถูกใช้งานจนสิ้นสภาพ หรือเลิกใช้งานแล้ว สามารถนำไปรีไซเคิล เพื่อนำกลับมาแปรรูปใช้งานใหม่ในรูปแบบที่เหมาะสมกับเกรด และชนิดของกระดาษ นั้นๆ